top of page

มะเร็ง

มะเร็ง โรคร้ายที่อย่างกรายมาอย่างเงียบๆ

ปัจจุบัน มะเร็งได้กลายมาเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทย แทรงหน้าโรคหลอดเลือดหัวใจไปนานแล้ว ทุกๆปีจะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งประมาณ 80,000 คน และพบผู้ป่วยรายใหม่มะเร็งมากถึง

ปีละ 150,000 คน จากสถิติพบว่าผู้ชาย 1 ใน 7 คนละผู้หญิง 1 ใน 8 คน มีโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งตลอดช่วงที่มีชีวิตอยู่ นั่นหมายความว่าทุกๆ 7-8 คน จะมีคนเป็นมะเร็ง 1 คนนั่นเอง

ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจเลยทีเดียว

3d-render-medical-background-with-abstract-virus-cells.jpg

มะเร็งเป็นภัยคุกคามที่มาอย่างเงียบๆ และมีอัตราการตายสูงกว่าโรคอื่นๆ เพราะว่าเรามักจะไม่รู้ตัวว่ามีเซลล์มะเร็งที่ผิดปกติอยู่ในร่างกายเรา จนกว่าจะมีอาการแสดงออก ซึ่งก็มักจะเป็นระยะท้ายๆที่มีการลุกลามไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ยากต่อการรักษาและผลของอาการข้างเคียงจากยาที่รุนแรง อาจทำให้เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้

ดังนั้นการป้องกันมะเร็งที่ดีที่สุด คือการค้นหาและรู้ความเสี่ยงว่าตัวเรามีโอกาสเกิดมะเร็งชนิดไหนในร่างกายมากกว่าคนอื่น การตรวจคัดกรองที่ไวและแม่นยำในการหาโรคในระยะเริ่มต้น และการดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อช่วยค้นหาและกำจัดเซลล์มะเร็งก่อนการลุกลาม

การประเมินความเสี่ยงโอกาสเกิดมะเร็งชนิดต่างๆในร่างกาย

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพของโลกปัจจุบัน ที่ทำให้การตรวจรหัสพันธุกรรมสามารถทำได้อย่างง่ายดาย ทำให้เราสามารถตรวจวิเคราะห์หายีนกลายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งที่แฝงอยู่ในร่างกายเราได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า CellMax (DNA Genetic cancer risk test ) สามารถทำให้เราทราบได้ว่าเราได้รับการถ่ายทอดยีนพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งผ่านจากพ่อแม่สู่ลูกหรือไม่  โดยสามารถตรวจได้มากถึง 98 ยีน ครอบคลุมการประเมินความเสี่ยงมะเร็งถึง 25 ชนิดในร่างกาย ซึ่งคนที่ได้รับการถ่ายทอดยีนพันธุกรรมที่มีความผิดปกตินี้ก็จะมีโอกาสเกิดมะเร็งชนิดใดชนิดหนึ่งมากกว่าคนปกติ การตรวจนี้จะช่วยทำให้เราคอยเฝ้าระวังโอกาสเกิดมะเร็งได้ตรงจุดมากขึ้น และสามรถติดตามโอกาสเกิดมะเร็งที่มีความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการตรวจก็ได้ยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่เก็บ DNA จากน้ำลายเพียงเท่านั้นเอง

การตรวจคัดกรองมะเร็ง Pantum Test

เป็นการตรวจเลือดโดยอาศัยกลไกการทำงานของภูมิคุ้มกัน โดยใช้เทคนิคที่ทดสอบความสามารถของระบบภูมคุ้มกันในการทำลายเซลล์ที่ผิดปกติ โดยการจับกินของ macrophages ซึ่งจะจับกินเฉพาะเซลล์ที่มีความผิดปกติ และเสื่อมสภาพ ทำให้การตรวจนี้มีความจำเพาะสูงถึง 99.5% และความไว 97.5 % โดยมี Biomarker คือ TKTL1 และ Apo 10 โดย Marker เหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง โดย Apo 10 จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะเริ่มแรกที่เซลล์มีการแบ่งตัวผิดปกติ ในขณะที่ TKTL1 จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะถัดมา

การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้วยวิธี quad test และ CRC protect

มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยเป็นอันดับ2 ในผู้ชายและอันดับ 3 ในผู้หญิง การตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโรคมักทำโดยการส่องกล้องสวนทวาร ซึ่งหากใช้ตรวจคัดกรองบ่อยๆ ก็อาจเป็นวิธีการที่ไม่น่าพึงประสงค์ของใครบางคนได้ การตรวจที่ง่ายและมีความแม่นยำสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใช้คัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มต้น ด้วยวิธี quad test ช่วยประเมินความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่จากการตรวจอุจจาระ ที่มีความไวและความจำเพาะ (sensitivity & specificity)ต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่ถึง 90% หรือวิธีการตรวจเลือดเพื่อหามะเร็งที่ลอยอยู่ในกระแสเลือดด้วยวิธีการ CRC Protect  ที่ให้ความแม่นยำ (specificity)ในการตรวจ > 90%

การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากในช่วงก้ำกึ่ง

เป็นที่ทราบกันดีว่า การตรวจระดับ PSA (prostate specific antigen)  ในเลือดสามารถใช้เป็นตัวคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากได้เป็นอย่างดี โดยผู้ที่มีค่า < 4 ng/ml มีโอกาส เป็นมะเร็งน้อย ส่วนผู้ที่มีค่า PSA > 10 ng/ml มีความสัมพันธ์กับมะเร็งต่อมลูกหมากชัดเจน แต่ในช่วงก้ำกึ่ง PSA 4-10 ng/ml นี้เป็นช่วงที่เรียกว่า Gray zone การตรวจ ด้วยวิธี Prostate cancer test เป็นตรวจหาเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากที่ลอยอยู่ในกระแสเลือด มีความไว (sensitivity) 84% และความแม่นยำ(specificity)ถึง 94% ช่วยให้การวินิจฉัยได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นและสามารถช่วยให้การวางแผนการรักษาได้ไวยิ่งขึ้น

การเพิ่มภูมิคุ้มกันมะเร็งด้วยเซลล์เพชรฆาต NK cell

ปัจจุบันภูมิคุ้มกันบำบัดได้รับความนิยมมากขึ้นในการรักษาและป้องกันมะเร็ง เซลล์เพชรฆาตที่เรียกว่า NK cell เป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวในร่างกายที่มีคุณสมบัติสามารถตรวจค้นหาและกำจัดมะเร็งได้เองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องอาศัยการเหนี่ยวนำหรือกระตุ้นจากเซลล์ระบบภูมิคุ้นกันชนิดอื่น จึงเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากการศึกษาในประเทศญี่ปุ่นพบว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันเซลล์เพซรฆาตน้อยกว่าปกติ จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่าคนปกติ หรือผู้ป่วยมะเร็งกลุ่มที่มีเซลล์เพชรฆาตน้อยจะมีโอกาสตายสูงกว่ากลุ่มที่มีเซลล์เพชรฆาตปกติ ดังนั้นการบำบัดด้วยการเพิ่มจำนวนเซลล์เพชรฆาตในร่างกายจึงกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันเราสามารถเพิ่มจำนวนเซลล์เพชรฆาตได้โดยการนำเลือดของตัวเองไปคัดแยกและเพิ่มจำนวนเซลล์เพชรฆาตแล้วกลับนำมาฉีดกลับเข้าสู่ร่างกายตนเอง หรือการนำเลือดของผู้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดไปคัดแยกและเพิ่มจำนวนแล้วนำฉีดกลับมาให้กับผู้ป่วย การเพิ่มจำนวนเซลล์เพชรฆาต เป็นการเพิ่มระบบภูมิกันที่มุ่งเน้นการกำจัดเซลล์มะเร็งให้แข็งแรง เป็นได้ทั้งวิธีป้องกันและรักษามะเร็งได้ไปพร้อมๆกัน

bottom of page